อลูมิเนียมลายไม้ (Aluwood)


 

 

 

 

 

 

 

ลงทะเบียนรับ Price Catalog ฟรี
จัดส่ง Free !!! ทั่วประเทศไทย

 

 

 

 

 

 


สถานที่ตั้ง


 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


Question & Answer & Suggestion
คำถาม / คำตอบ / คำแนะนำ


คำถามมีคำตอบ

1. ทำไมราคาอลูมิเนียมของแต่ละร้านไม่เท่ากัน
ตอบ คำถามนี้ มักจะได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ทำไมร้านนี้ขายถูก ร้านนี้ขายแพง
ปัจจัยสำคัญๆ มีดังต่อไปนี้

1) มาตรฐานคุณภาพของโรงงาน
    โรงงานแต่ละโรงงานมีมาตรฐานการผลิตที่ต่างกัน ส่วนผสมของวัตถุดิบต่างกัน หากเป็นวัตถุดิบจากต่างประเทศล้วนๆ ต้นทุนจะสูงกว่า ส่งผลให้ราคาต่อน้ำหนักต่อเส้นสูงขึ้น หากวัตถุดิบผสมเศษอลูมิเนียม, กระป๋องอลูมิเนียม, หรือวัสดุอลูมิเนียมที่นำมาหลอมใหม่ ต้นทุนจะต่ำกว่า ส่งผลให้น้ำหนักต่อเส้นถูกลง ทั้งนี้ให้คำนึงถึงคุณภาพและการใช้งานเป็นสำคัญ

ตารางมาตรฐานคุณภาพของโรงงานต่างๆ

โรงงาน
มาตรฐานบริหารงาน
คุณภาพ ISO 9001
มาตรฐานสีที่ใช้
ในการอบสี

มาตรฐานกระบวน
การอบสีให้คงทน

มาตรฐานรับรอง
อลูมิเนียมใน
อุตสาหกรรมรถยนต์

1. เมืองทอง
Yes 
Yes 
Yes 
2. ไทยถาวร
 Yes
No
No 
No 
3. MT Alumet
 Yes
No
No 
No 

2) ความหนาของการชุบสีของอลูมิเนียม ( Microns ) อลูมิเนียมแต่ละสีมีการชุบของผิวสีที่แตกต่างกัน สีเข้มจะมีความหนาของสีชุบมากกว่า และแต่ละโรงงานมีมาตรฐานการชุบสีของอลูมิเนียมต่างกัน ตัวอย่างตารางความหนาฟิล์มผิวชุบเส้นอลูมิเนียมของโรงงานเมืองทอง

ตัวอย่างตารางความหนาฟิล์มผิวชุบเส้นอลูมิเนียมของโรงงานเมืองทอง

สีชุบ
10 microns
15 microns
18 microns
25 microns
E & A
o
o
o
o
MT 512
o
o
o
o
MT 514
-
o
o
o
MT 517
-
o
o
o
MT 519
-
-
o
o

- ชนิดสีชุบขาว (E & A) ความหนาของ Thickness Film 10 Microns + / - 2 Microns
- ชนิดสีชุบสีชา 512 ความหนาของ Thickness Film 10 Microns + / - 2 Microns
- ชนิดสีชุบสีชา 514 ความหนาของ Thickness Film 15 Microns + / - 2 Microns
- ชนิดสีชุบสีชา 517 ความหนาของ Thickness Film 15 Microns + / - 2 Microns
- ชนิดสีชุบสีชา 519 ความหนาของ Thickness Film 18 Microns + / - 2 Microns
- ชนิดสีอบ (Powder Coating) ความหนาของ Thickness Film 70 Microns + / - 2 Microns

ความหนาของสีชุบสามารถสั่งได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น
- ความหนาฟิล์มผิวชุบ 10 microns (0.01 มม.)
  เหมาะสำหรับงานภายในอาคาร
- ความหนาฟิล์มผิวชุบ 15 microns (0.015 มม.) และ 18 microns (0.018)
  เหมาะสำหรับงานภายในและภายนอกอาคารที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมสามัญ
- ความหนาฟิล์มผิวชุบ 20 microns (0.02 มม.) และ 25 microns (0.025)
  เหมาะสำหรับงานภายในและภายนอกอาคารที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการทำลายสูง หรืองานที่ต้องการความคงทนของผิวชุบธรรมชาติ หรือ ผิวชุบสีที่มีความคงทนต่อการใช้งานที่ยาวนานเป็นพิเศษ เช่น ริมทะเล เป็นต้น

คนไทยส่วนใหญ่มักจะละเลยถึงคุณสมบัติข้อนี้ แต่หากเป็นสถาปนิกบริษัทฯ ต่างชาติ จะสั่งทำถึง 100 microns ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะสถาปนิกต่างชาติคำนึงถึงอากาศที่ร้อนของประเทศไทย หากเป็นงานโครงการติดทะเลย อาจเลือกอลูมิเนียมสีอบเลยก็ได้ เนื่องจากมีกระบวนการอบสีที่หนาอยู่แล้ว ถึง 70 microns หรืออลูมิเนียมลายไม้ ซึ่งอลูมิเนียมลายไม้จะมี microns สูงที่สุด เนื่องจากต้องอบสีก่อนชั้นหนึ่ง และเคลือบลายไม้อีกหนึ่งชั้น (ประมาณ 100 microns) แต่พึงระวังในเรื่องกระบวนการอบสีเช่นกัน เนื่องจากหากอบสีที่มีความหนา ต้องเป็นกระบวนการที่มีมาตรฐาน เพื่อให้สีที่อบเข้ากับตัวอลูมิเนียม ไม่ให้หลุดเป็นแผ่น กระบวนการอบสี สามารถเปรียบเทียบได้กับสีรถยนต์ สีที่มากับตัวรถยนต์จากโรงงาน จะมีความหนา, คงทน และสวยงามกว่าสีที่ทำใหม่ และสีรถยนต์ของยุโรป จะมีความหนากว่าสีรถยนต์ของญี่ปุ่น

3) น้ำหนักต่อเส้น
    น้ำหนักต่อเส้นในการผลิตแต่ละครั้งจะไม่เท่ากัน โดยเฉลี่ยจะมี Range ของแต่ละโรงงานไว้อยู่แล้วว่า สินค้าชนิดนี้น้ำหนักเฉลี่ยเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ มาตรฐาน Range ของแต่ละโรงงานก็ต่างกันเช่นกัน ดังนั้น หากเป็นสินค้าของโรงใหญ่ อาจใช้อลูมิเนียมที่มีความหนาน้อยกว่าแทนอลูมิเนียมที่มีความหนามากกว่าของโรงเล็กได้ เช่น อลูมิเนียมความหนา 1.2 ของโรงใหญ่ สามารถใช้แทนสินค้าที่มีความหนา 1.5 ของโรงเล็กได้

ตัวอย่างน้ำหนักเฉลี่ย

ชื่อสินค้า
หนา
น.น. (โรงเล็ก)
น.น. (โรงใหญ่)


กล่องร่อง
1.0
3.5 - 4.0
4.1 - 4.3
1.2
5.0 - 5.3
5.4 - 5.7
1.3
5.4 - 5.7
5.8 - 6.0
1.5
6.0 - 6.5
6.6 - 7.7
1.75
7.9 - 8.4
8.5 - 8.9
2.0
9.0 - 9.5
9.6 - 10.0

การคำนวณหาน้ำหนักต่อเส้น สิ่งที่ต้องรู้
3 .1) น้ำหนักต่อเมตร 3.2) ความยาวต่อเส้น (เมตร)

Thickness (mm.)
Area (mm.2)
Weight (kg./m.)
1.0
296.70
0.804
1.2
346.36
0.939
1.3
370.86
1.005
1.5
420.44
1.139
1.75
493.16
1.336
2.0
540.88
1.466

วิธีการคำนวณหาน้ำหนักของอลูมิเนียมกล่องร่องในความหนา 1.5 มีดังต่อไปนี้
3 .1) น้ำหนักต่อเมตร = 1.139
3 .2) ความยาวต่อเส้น (เมตร) = 6.4
น้ำหนักของอลูมิเนียมกล่องร่อง หนา 1.5 = น้ำหนักต่อเมตร * ความยาวเส้น
                                                      = 1.139 * 6.4
                                                      = 7.2896 กิโลกรัม / เส้น
หมายเหตุ : น้ำหนักที่คำนวณได้ เป็นแค่ประมาณการเท่านั้น หากต้องการทราบน้ำหนักจริงต้องชั่งน้ำหนักของจริงอีกครั้ง และน้ำหนักแต่ละเส้นอาจจะเท่ากันหรือไม่เท่ากัน และแต่ละ Lot อาจจะเท่ากันหรือไม่เท่ากัน จะต่างกันเป็นจุดทศนิยม ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุให้ราคาแต่ละครั้งเฉลี่ยมาไม่เท่ากันเช่นกัน


4) ต้นทุนของสินค้า
    ต้นทุนสินค้าแต่ละร้านต่างกัน

5) Stock สินค้า
    Stock สินค้าของแต่ละร้านมีผลทำให้ราคาขายแตกต่างกันไป


6) ปริมาณที่ซื้อ และ วิธีการชำระเงิน
    ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าซื้อปริมาณเยอะหรือน้อย ซื้อเป็นเงินสดหรือเงินเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติสำหรับร้านค้าที่จะให้เป็น Case แตกต่างกันไป


2. ทำไมสินค้าไม่ครบ
    - สินค้ามีหลากหลายชนิด
    - สินค้าหนึ่งชนิดมีหลายขนาด
    - สินค้าหนึ่งชนิดมีหลายสีต่อหนึ่งขนาด
    - สินค้าต้องรอกระบวนการผลิด


3. ทำไมสินค้าอลูมิเนียมสีไม่เหมือนกัน
    - ส่วนผสมของสีแต่ละโรงงานต่างกัน
    - หากเป็นเครือเดียวกัน อาจสีเหมือนกัน แต่วัตถุดิบต่างกัน
    - ถึงแม้ว่าเป็นโรงงานเดียวกัน แต่ละ Lot ที่มา สีอาจต่างกันเล็กน้อย บวกลบประมาณ 10%
เช่น หากเป็นอลูมิเนียมสีอลูมิเนียมจะมีความเพี้ยนของสีค่อนข้างน้อยกว่าสีเข้มของสี 517 ซึ่งกระบวนการผสมสีให้ออกมาเข้มและเสมอกันทั้งเส้นทุกเส้นทุก Lot อีกทั้งยังต้องค่อนข้างระวังในการเกิดรอย เนื่องจากสีเข้มจึงจะเห็นชัด


4. ทำไมถึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม 
ตอบ คำถามนี้อาจพบไม่บ่อยมากนัก เนื่องจาก ปัจจุบัน ยังไม่มีวัสดุที่มีคุณภาพ น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นเดียวกับอลูมิเนียม แต่เพื่อความมั่นใจของลูกค้าเรา ทางบริษัทฯ ได้เรียบเรียงเหตุผลในการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม ดังต่อไปนี้
4.1)  สวยงาม และสามารถสั่งทำได้หลากหลายเฉดสีตามต้องการ
4.2)  ติดตั้งง่าย เนื่องจากวัสดุที่นำมาประกอบหรือติดตั้้งมีขายอยู่ตามท้องตลาดอยู่แล้ว
4.3)  หาแรงงานติดตั้งง่าย อีกทั้งยังค่าแรงไม่สูงมาก ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์
4.4)  สินค้าราคาไม่สูงมากและมีคุณภาพ รวมไปถึงวัสดุร่วมอื่นๆ
4.5)  สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Re-Use) ซึ่งสามารถถอดมาตัด ชุบสีใหม่ และประกอบเป็นแบบอื่นได้เป็นอย่างดี
4.6)  ไม่อ่อนตัวและไม่เปลี่ยนสีเมื่ออยู่ในสภาวะต่างๆ เช่น อากาศร้อน หรือ ที่สูง
4.7)  สามารถขึ้นรูปแม่พิมพ์ใหม่ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ หรือ spec งานที่ต้องการ หากโรงงานไม่มีแม่พิมพ์แบบที่ลูกค้าต้องการได้
4.8)  มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
4.9)  เข้ากับวัสดุอื่นได้เป็นอย่างดี เช่น เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ กระจก ยิปซั่ม มุ้งลวด และ ฝ้าเพดาน
4.10) กันน้ำและกันไฟ
4.11) รักษาดูแลทำความสะอาดง่าย
4.12) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม



คำแนะนำในการซื้อสินค้า

1. ควรเลือกร้านที่ลูกค้าไว้วางใจ แล้วให้ร้านนั้นจัดหาสินค้าให้ เนื่องจาก ปัจจัยของราคามีหลายประเด็นดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจด้านอลูมิเนียมมานานกว่า 30 ปี ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าว่าต้องเลือกร้านที่มีสินค้าครบที่สุด มีคุณภาพที่สุดและราคาสมเหตุสมผล ซึ่งหากต้องคอยหาสินค้าร้านโน้นร้านนี้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าโทรศัพท์, ค่าน้ำมัน, ค่าเสียเวลาที่เกิดขึ้นทำให้ต้นทุนกลับกลายเป็นแพงกว่าเดิมเสียอีก การที่ต้องประสานงานกับฝ่ายขายหลายฝ่าย อีกทั้งหากสินค้าซื้อไปแล้ว ใช้ไม่ได้ หนาไปบางไป ต้องการคืนสินค้าหรือเปลี่ยนสินค้า ต้องไปหลายที่จะยิ่งทำให้งานเกิดความล่าช้าไปอีก ส่งผลให้ส่งงานช้า ได้รับเงินช้าตามไปด้วย

2. ควรมีการวางแผนงานที่ชัดเจน หากต้องการทำงานให้เสร็จในสัปดาห์นี้ ต้องซื้อสินค้าให้ครบที่ไหน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นงานโครงการหรือเป็นงาน Spec สินค้าบางชนิดทางโรงงานไม่ค่อยได้ผลิต ต้องโทร Confirm กับทางโรงงานให้เข้าใจก่อนว่า สินค้าตัวนี้ใช้เวลาผลิตนานเท่าไหร่ ต้องการใช้สินค้านี้แน่ เนื่องจากเป็นตัวที่ไม่ได้ผลิตเก็บไว้ หากผลิตแล้วไม่รับคืน ต้องมีการเตรียมงานให้เรียบร้อย

3. การเลือกสินค้า ควรเลือกให้เหมาะกับประเภทของงาน
3.1) อลูมิเนียม
       - หากเป็นงานปรกติทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้อลูมิเนียมอย่างหนาจะทำให้สามารถลดต้นทุนได้
       - หากเป็นเจ้าของบ้าน ก็ต้องแล้วแต่เจ้าของบ้าน แต่ต้องให้คำปรึกษาที่เป็นข้อเท็จจริง แล้วให้เจ้าของบ้านเป็นผู้ตัดสินใจเอง
       - หากเป็นงาน Spec พยายามให้งานเป็นไปตาม Spec ไม่ผิดแบบ หรือถ้าไม่ได้จริง ต้องเลือกสินค้าที่ใกล้เคียงที่สุด เนื่องจาก งาน Spec จะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาทำการตรวจสอบ หากไม่ผ่านต้องรื้อทำใหม่ หรือในบางครั้งเจ้าของโครงการจะเปลี่ยนผู้รับเหมาทันที งานที่ทำแล้วก็ไม่ได้รับค่าจ้าง ในขณะที่ค่าสินค้าค่าแรงก็ต้องจ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่มีให้เห็นเสมอๆ

หมายเหตุ : ในการเลือกอลูมิเนียม ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรือใหญ่ ควรต้องมีมาตรฐานรองรับ เนื่องจาก หากเลือกสินค้าที่ไม่มีมาตรฐานเลย ความหนาของอลูมิเนียมจะไม่เท่ากันทั้งเส้น บางช่วงของเส้นอาจหนา บางช่วงของเส้นอาจบาง ทำให้ไม่สามารถอ้างอิงได้ว่าสินค้านี้มีความหนาที่เท่าไหร่

3.2) กระจก
       - หากเป็นงานตู้โชว์ สินค้า งานหน้าร้านที่ต้องการความสวยงาม ต้องใช้กระจกที่ได้รับมาตรฐาน เนื่องจากมีความเขียวใสมากกว่า
       - หากเป็นงานทั่วไป สามารถใช้กระจกธรรมดาได้ เพื่อลดต้นทุน
       - หากเป็นงานบนชั้นที่สูง ต้องใช้กระจกอย่างหนา เนื่องจากต้องรองรับแรงโน้มถ่วงและการเสียดสีของอากาศ

3.3) ยิปซั่ม
       - หากเป็นงาน Spec ต้องใช้สินค้าที่มีมาตรฐานเท่านั้น
       - หากไม่ใช่งาน Spec สามารถใช้ยิปซั่มธรรมดาได้ เพื่อลดต้นทุน

4. การดูแลรักษา
4.1) อลูมิเนียม – หากมีคราบเป็นดวงๆ ควรรีบเช็ดออก เนื่องจากหากปล่อยไว้นาน อาจเป็นคราบถาวรได้
4.2) กระจก – ทำความสะอาจสม่ำเสมอ
4.3) ยิปซั่ม – ควรหลีกเลี่ยงส่วนที่ชื้น หรือ หากมีน้ำรั่ว ให้เปลี่ยนเป็นวัสดุประเภทอื่นแทน

*** ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด ทางร้าน ส.ไพบูลย์ ขายสินค้าราคาเท่ากันทั่วประเทศไทย ขนส่งสินค้าทุกที่ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก, หรือแม้กระทั่งเกาะ เช่น เกาะช้าง รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และ พม่า

ยินดีบริการลูกค้าทุกระดับประทับใจ


ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้


หมายเหตุ : หากไม่ได้รับความสะดวก ติดต่อ คุณวลัย เจนธรากรณ์ T. 02-511-1103 (เบอร์ตรง),
M. 081-752-2277

 
" สินค้าคุณภาพ บริการประทับใจ "

1553/3-9 ซอยลาดพร้าว 43 ถนนลาดพร้าว เขตห้วยขวาง
กรุงเทพฯ 10310 Tel. 02-512-3515-9 Fax. 02-513-3967
Copyright @ 2005. Sor Paiboon Aluminium Construction Co., Ltd. All rights reserved.